การบริการพัฒนาเว็บไซต์ SHOPIFY

คุณสมบัติอันมากมายทำให้ Shopify เป็นตัวเลือกยอดนิยมในวงการอีคอมเมิร์ซ คุณสมบัติบางส่วนคือ:

• ความปลอดภัย
• สามารถปรับขนาดได้: หลายชั้น
• แอปพลิเคชั่นมือถือเพื่อจัดการเว็บของคุณ
• กระบวนการจัดการผลิตภัณฑ์-หมวดหมู่-ลูกค้าอย่างง่าย
• แอปนับไม่ถ้วนสำหรับการใช้งานขั้นสูง
• โฮสต์แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซโดยสมบูรณ์

เรานำเสนอบริการด้านล่างทั้งหมดสำหรับแพลตฟอร์ม Shopify: 

• บริการการพัฒนาแบบกำหนดเอง: 
• บริการออกแบบธีม-UI ที่สามารถกำหนดเองได้
• การพัฒนาแอป บริการการรวม API
• บริการการโอนย้าย
• บริการตรวจสอบและการเพิ่มประสิทธิภาพ
• บริการการบำรุงรักษา

บริการพัฒนาเว็บไซต์ Shopify ของเราปฏิบัติตามกระบวนการคัดกรองและการคัดเลือกอย่างรอบคอบเพื่อดำเนินการทุกอย่างตามความสามารถของเราเพื่อจัดหาทรัพยากรที่ดีที่สุดให้กับคุณและค้นหาผู้มีความสามารถที่ดีที่สุดสำหรับทีมของคุณ เราคัดกรองทักษะทางภาษา ลักษณะทางบุคลิกภาพ และความรู้เฉพาะด้าน เรามุ่งมั่นที่จะค้นหานักสื่อสารที่ดีที่สุดและผู้จัดการงานที่ดีที่สุดสำหรับโครงการของคุณ

ค่าบริการการพัฒนาร้านค้าของ Shopify ที่ราคาไม่แพงอาจมีค่าใช้จ่ายประมาณ 500-2,000 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับเว็บไซต์พื้นฐาน แต่เว็บไซต์จะไม่มีการปรับแต่งและ/หรือการผสานรวมแต่อย่างใด 

ยิ่งคุณต้องการการปรับแต่งและการผสานรวมมากขึ้นเท่าใดและข้อกำหนดของคุณซับซ้อนมากขึ้นเท่าใด ต้นทุนก็จะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ราคาอาจสูงขึ้นถึงมากกว่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นอยู่กับฟังก์ชันการทำงาน ระดับของการปรับแต่ง และระยะเวลากำหนดตามที่คุณต้องการ เรียนแจ้งให้ทราบว่านักพัฒนาที่มีประสบการณ์ย่อมจะเรียกเก็บเงินสูงกว่านักพัฒนาอิสระ แต่ผู้เชี่ยวชาญจะพัฒนาเว็บของคุณในระยะเวลาอันสั้นกว่าและมีปัญหาน้อยกว่ามาก

Shopify และ Shopify Plus มีความแตกต่างกันหลายประการ เพื่อทำให้เข้าใจได้ง่าย ก็จะมีลักษณะดังนี้:

• Shopify ได้รับการออกแบบมาสำหรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางด้วยงบประมาณที่มีขีดจำกัด เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่ดีสำหรับการแสดงตนทางออนไลน์ก็อาจเพียงพอแล้วสำหรับพวกเขา
• Shopify Plus ถูกสร้างขึ้นมาสำหรับบริษัทขนาดใหญ่ องค์กรระดับโลก และธุรกิจขนาดใหญ่โดยทั่วไป ดังนั้น โมดูลระดับนี้จึงมอบคุณสมบัติมากกว่าระดับ Shopify คุณสมบัติที่อาจไม่จำเป็นสำหรับ SMB แต่สำคัญสำหรับองค์กรระหว่างประเทศ

ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของเว็บไซต์ของคุณและระดับผู้พัฒนาของคุณ ซึ่งสามารถใช้เวลาเพียง 20 นาทีสำหรับบริการพัฒนาเว็บไซต์ Shopify ขั้นพื้นฐานที่ไม่มีการปรับแต่งหรือการผสานรวม เราไม่สามารถบอกตัวเลขที่แน่นอนได้ก่อนที่เราจะตรวจสอบเว็บไซต์ Shopify ของคุณหรือรายการข้อกำหนดของคุณก่อน อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญ Shopify ของเราสามารถจัดการข้อกำหนดการพัฒนาเว็บไซต์ Shopify ทุกประเภทได้อย่างง่ายดาย

เมื่อเปรียบเทียบทั้งสองแพลตฟอร์มนี้แล้ว Shopify จะดึงดูดกลุ่มองค์กรที่เน้นการขายโดยมองหาโซลูชั่นอีคอมเมิร์ซที่ใช้งานง่าย มีคุณสมบัติครบถ้วน และค่อนข้างอัตโนมัติ ในทางกลับกัน WordPress ต้องการการปรับเปลี่ยนที่มากขึ้น แต่ก็เหนือกว่าในแง่ของความเอนกประสงค์

ทั้งสองแพลตฟอร์มนี้ค่อนข้างดีพอ ๆ กันเมื่อพูดถึงการให้บริการลูกค้าใหม่ด้านอีคอมเมิร์ซ อย่างไรก็ตาม Shopify นั้นดีกว่า Wix อย่างปฏิเสธไม่ได้เมื่อธุรกิจของคุณขยายขนาดขึ้น Wix ได้รับการออกแบบมาสำหรับผู้เริ่มต้นอีคอมเมิร์ซหรือเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กเท่านั้น ในขณะที่ Shopify เสนอระดับที่แตกต่างกันมากถึง 4 ระดับ โดยจัดลำดับความสำคัญของกลุ่มธุรกิจขนาดต่าง ๆ ไว้อย่างชัดเจน

ได้ คุณสามารถโยกย้ายร้านค้าอีคอมเมิร์ซของคุณจากแพลตฟอร์มอื่นไปยัง Shopify ได้ตลอดเวลาเลย คุณสามารถทำได้ด้วยตนเอง ด้วยความช่วยเหลือของแอปบุคคลที่สาม หรือคุณสามารถไว้วางใจทีมงานของเราที่มีประสบการณ์หลายปีในการให้บริการพัฒนาเว็บไซต์ Shopify เพื่อจัดการงานได้อย่างสมบูรณ์แบบสำหรับคุณในขณะที่คุณทำงานกับธุรกิจของคุณได้มากขึ้น

ได้ คุณสามารถใช้ชื่อโดเมนของคุณเองกับ Shopify ได้ 

หากคุณมีชื่อโดเมนอยู่แล้ว คุณสามารถเชื่อมต่อเข้ากับ Shopify ได้จากผู้ดูแลระบบของร้านค้าของคุณ หากคุณยังไม่มีชื่อโดเมน คุณสามารถซื้อผ่าน Shopify หรือผู้ให้บริการบุคคลที่สามได้

ได้ ด้วยบริการพัฒนาร้านค้า Shopify ของเรา เราสามารถสร้างแอปส่วนตัวทุกประเภทสำหรับเว็บไซต์ของคุณตามความต้องการของคุณ ตราบใดที่แอปเหล่านั้นเป็นไปได้ในทางเทคนิค

ผู้เชี่ยวชาญด้านบริการพัฒนา Shopify ของเราที่มีประสบการณ์ในการสร้างส่วนขยาย แอป และธีมมากกว่า 50 รายการ สามารถสร้างคุณสมบัติใดๆก็ตาม สำหรับร้านค้า Shopify ของคุณได้ ตราบใดที่เป็นไปได้ในทางเทคนิค

เราสามารถตรวจสอบเว็บไซต์ของคุณตลอดจนตรวจพบปัญหา และจากนั้นจึงดำเนินการเพิ่มประสิทธิภาพเพื่อให้แน่ใจว่าเว็บไซต์ของคุณทำงานได้ตามที่คุณต้องการ

Shopify เป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับธุรกิจหลากหลายประเภท รองรับทั้งการดำเนินงานขนาดเล็กและองค์กรขนาดใหญ่ สามารถใช้สร้างร้านค้าออนไลน์สำหรับธุรกิจค้าปลีก ค้าส่ง ธุรกิจขายปลีกออนไลน์ และธุรกิจแบบสมัครสมาชิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ Shopify ยังเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการลงทุนอีคอมเมิร์ซทั้ง B2B (ธุรกิจกับธุรกิจ) และ B2C (ธุรกิจกับผู้บริโภค) อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีแพลตฟอร์มที่ทำงานได้อย่างราบรื่นสำหรับการขายหลายช่องทาง ช่วยให้ผู้ค้าลงรายการผลิตภัณฑ์ของตนในตลาดออนไลน์ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย

เมื่อต้องค้นหานักพัฒนา Shopify นับว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีการรีวิวและประเมินพอร์ตโฟลิโอและรีวิวต่าง ๆ ของพวกเขา นักพัฒนา Shopify ที่เชี่ยวชาญควรมีความเชี่ยวชาญใน Shopify Liquid, HTML และ CSS ด้วย นอกจากนี้ ความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องมือค้นหา (Search Engine Optimization (SEO)) และหลักการตลาดถือเป็นสิ่งจำเป็น เนื่องจากเป็นการวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพ

จะเป็นการดีที่สุดหากคุณสามารถจ้างทีมผู้เชี่ยวชาญที่มีทักษะและประสบการณ์ที่หลากหลายด้วยบริการพัฒนาเว็บไซต์ของ Shopify เช่น ทีมผู้เชี่ยวชาญของ Shopify ที่ Magenest ผลงานของเรามีส่วนขยาย แอป และธีมมากกว่า 50 รายการ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการยกระดับฟังก์ชันการทำงานของ Shopify ของลูกค้าของเรา

แน่นอนที่สุดว่าที่ Magenest นั้น เรานำเสนอบริการด้านการบำรุงรักษาและการให้การสนับสนุนหลังการพัฒนาสำหรับ Shopify ภายใต้แผนการคุ้มครองแบบขยายของเรา เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้รับความช่วยเหลือและการบำรุงรักษาเว็บไซต์ Shopify ของคุณอย่างต่อเนื่อง